"บลูเบอร์รี่" กินทุกวัน ผิวสวยอ่อนวัย บำรุงสายตา

สวัสดีค่ะ คุณเมย์มีเคล็ดลับสุขง่ายๆจากการทานผลไม้มาฝากค่ะ "บลูเบอร์รี่" กินทุกวัน ผิวสวยอ่อนวัย บำรุงสายตา มาดูกันค่ะว่า ผลไม้ชนิดนี้มีประโยชน์ยังไงบ้าง 15 สรรพคุณ...ประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ ผลไม้เพื่อดวงตาที่สดใส “บลูเบอร์รี่” จัดว่าเป็นผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ที่โดดเด่นด้วยสีน้ำเงินอมม่วงสวยสดใส เป็นผลไม้เมืองหนาวที่ปัจจุบันสามารถปลูกในไทยได้บางพื้นที่ เป็นผลไม้ที่ให้การบำรุงแก่ร่างกายได้หลายส่วน ทั้งบำรุงดวงตา รักษาผิวพรรณ และยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยชะลอวัยด้วย สรรพคุณของบลูเบอร์รี่มีอะไรบ้างต้องอ่านบทความนี้.. “บลูเบอร์รี่” ผลไม้เพื่อดวงตา วิตามินในบลูเบอร์รี่ รวมไปถึงสารต้านอนุมลูอิสระโดยเฉพาะในบลูเบอร์รี่นั้นช่วยบำรุงสายตา และทำให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น นอกจากนี้การกินผลไม้ตระกลูเบอร์รี่เป็นประจำทุกวันจะช่วยไม่ให้ตาแห้ง ทำให้ดวงตาสดใส ลดภาวะเสี่ยงที่จะเป็นต้อในตาได้ การบำรุงสายตาด้วยบลูเบอร์รี่เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ นักวิจัยจากสถาบันดวงตาในอเมริกากล่าวว่าการกินบลูเบอร์รี่เป็นประจำจะช่วยให้สายตาไม่สั้นหรือยาว และทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีวิตามินที่ช่วยบำรุงสายตา และมีสาร anthocyanosides ที่ช่วยในการมองเห็น สมองดี มองเห็นชัด ด้วยคุณประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ ช่วยได้นอกจากประโยชน์ด้านดวงตาแล้ว นักโภชนาการยังยกให้น้ำบลูเบอร์รี่เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยบำบัดผู้ป่วยที่มีสภาพจิตใจอ่อนแอจากภาวะโรคซึมเศร้า โรคเครียด และโรคที่เกี่ยวกับประสาท เนื่องจากบลูเบอร์รี่ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ และยังช่วยให้นอนหลับสบายซึ่งส่งผลให้ความเครียดลดน้อยลง และยังช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลาย เมื่อทำงานร่วมกับสารแอนโธไซยานินในบลูเบอรี่จึงทำให้ระบบสมองทำงานได้ดี เลือดไหลเวียนดี บลูเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่ช่วยบำบัดอาการหลงๆ ลืมๆ เป็นตัวช่วยของคนขี้ลืมได้ ช่วยยับยั้งโรคสมาธิสั้น และทำให้สมองและดวงตาทำงานได้อย่างสอดคล้องกัน หุ่นสวย ผิวดี ต้องกินบลูเบอร์รี่ทุกวัน นอกจากประโยชน์ที่โดดเด่นเหล่านี้ บลูเบอร์รี่ยังมีไขมันต่ำ แต่ให้พลังงานสูง มีไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณขาวอมชมพูสดใส และวิตามินซียังช่วยป้องกันไข้หวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ การกินบลูเบอร์รี่เป็นประจำจะช่วยแก้ท้องผูก และใยอาหารที่ได้จากบลูเบอร์รี่ยังช่วยให้อิ่มไวแบบไร้แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน เป็นผลไม้ที่ดีต่อการควบคุมอาหาร และช่วยให้ผิวสวยได้ 15 สรรพคุณและประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ 1. บลูเบอร์รี่มีวิตามินอีที่ช่วยให้ผิวเนียนใส ไร้รอยดำ 2. บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงผิว ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ผิวอมชมพูดูมีเลือดฝาด 3. บลูเบอร์รี่มีวิตามินซีช่วยให้ผิวใสไร้สิว 4. บลูเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยแก้เจ็บคอ แก้หวัด แก้คัดจมูก 5. บลูเบอร์รี่มีสรรพคุณดีช่วยในการมองเห็น ทำให้ดวงตาสดใส 6. ประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ช่วยป้องกันการเกิดต้อในตา 7. บลูเบอร์รี่ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอในเวลาเครียด 8. ประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ช่วยแก้ท้องผูก 9. บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้รสเปรี้ยว มีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย 10. บลูเบอร์รี่ช่วยบำรุงประสาท ช่วยให้นอนหลับสบาย 11. บลูเบอร์รี่ช่วยชะลอวัย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ 12. บลูเบอร์รี่ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ 13. บลูเบอร์รี่ช่วยให้ไขมันไม่อุดตันในเส้นเลือด และทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก 14. บลูเบอร์รี่ช่วยกระตุ้นน้ำในตา ป้องกันอาการตาแห้ง 15. สรรพคุณของบลูเบอร์รี่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งขึ้นตา นอกจากบลูเบอร์รี่จะมีประโยชน์ทั้งต่อดวงตา ต่อเซลล์ประสาท ต่อสมอง และต่อร่างกายแล้ว บลูเบอร์รี่ยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ความสดชื่นแก่ร่างกายมากเลยทีเดียว เพราะรสเปรี้ยวของบลูเบอร์รี่ บวกกับความหอมที่ไม่ว่าจะเอาไปประกอบอาหารหวานชนิดไหนก็เข้ากันได้ดี รสเปรี้ยวจากบลูเบอร์รี่ช่วยแก้เลี่ยน และช่วยให้เจริญอาหาร (แต่ไม่ทำให้อ้วน) อีกทั้งยังมีใยอาหารสูง เมนูขนมหวานที่มีบลูเบอร์รี่เป็นส่วนประกอบมีมากมายตั้งแต่เค้ก ไอศกรีม เยลลี่ ทาร์ต แยมโรล รวมไปถึงอาหารคาวของฝรั่งบางเมนูก็จะใส่บลูเบอร์รี่เพื่อตัดรสคาวออกไป เช่น สเต็กที่ราดด้วยซอสบลูเบอร์รี่ นอกจากสรรพคุณและประโยชน์ของบลูเบอร์รี่ รวมถึงความโดดเด่นในรสชาติแล้ว บลูเบอร์รี่จัดว่าเป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติที่ให้สีฟ้า สีน้ำเงิน ที่แสนสวยงาม ถ้าบ้านเราสีครามเป็นอัญชัน ที่เมืองนอกต้องยกบลูเบอร์รี่มาแข่งได้เลย เพราะให้สีที่สวยงามนำไปเป็นสีผสมอาหารที่ให้กลิ่นหอมๆ ของผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ได้อย่างลงตัว จะใส่อ่อนๆ แบบเจือจางก็จะได้สีฟ้า ผสมมากหน่อยได้สีคราม แต่ถ้ายากได้สีน้ำเงินเข้มๆ ก็ผสมบลูเบอร์รี่ลงไปให้เข้มข้น ขอบคุณข้อมูลจาก : http://sukkaphap-d.com/ ฝากกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :) ______________________ ติดตามอัพเดทข้อมูลข่าวสารทางการเกษตร และเคล็ดลับดูแลสุขภาพดีๆที่ ช่องทางต่อไปนี้ค่ะ ฝากกดไลค์ กดติดตาม Facebook [คลิกที่] >>https://www.facebook.com/raikruyakthailand/ Line@ID [คลิกที่] >> @kruyakorganicfarm (มี @ ด้วยนะคะ) https://line.me/R/ti/p/%40kruyakorganicfarm