top of page

การปลูกต้นอะโวคาโดด้วยเกษตรอินทรีย์


การปลูกอะโวคาโด

จุดแรกเริ่ม มาจากการนำเข้าพันธุ์มาทดลองปลูกและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และขยายพื้นที่ปลูกอย่างจำกัดเฉพาะในพื้นที่เขตภาคเหนือ ต่อมาความสนใจในการบริโภคจากกลุ่มคนรักสุขภาพมีมากขึ้น จึงทำให้อะโวคาโดกลายเป็นผลไม้ที่มีความต้องการของตลาดสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน พื้นที่ปลูกอะโวคาโดยังมีน้อย ทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด

การปลูกอะโวคาโด ให้ได้ผลดี

อะโวคาโดเป็นพืชที่ปลูกง่าย แทบไม่ต้องมีการดูแลมากมายอะไร สามารถปลูกแซมในสวนผลไม้อื่นได้ ถ้าพันธุ์ที่ต้นเล็ก จะมีทรงพุ่มเล็ก ก็จะสามารถปลูกโดยใช้ระยะปลูก 6 เมตรต่อ 1 ต้น หากเป็นพันธุ์ที่ต้นใหญ่จะใช้ระยะปลูก 8 เมตรต่อ 1 ต้น เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป เมื่อต้นสูงประมาณ 1 เมตร ก็ให้ปุ๋ยบ้าง 1-2 เดือนครั้ง อะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ หลังปลูกผ่านไป 3 ปี ก็สามารถให้ผลผลิตและเก็บเกี่ยวได้แล้ว และจะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่ออายุ 5-6 ปี สำหรับสวนของคุณสำเริง ที่ปากช่องนั้น ผลผลิตต้นหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 400-500 กก. อะโวคาโดจะให้ผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี แต่จะมีผลผลิตมากในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย. หรือในช่วงฤดูฝน

วิธีการปลูกต้นอะโวคาโด เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด มี 3 แบบคือ

1.แบบทั่วไปทำง่าย โดยการใช้ไม้จิ้มฟันเสียบรอบเมล็ดอะโวคาโด ไม้จิ้มฟันเป็นตัวค้ำยัน แล้วจุ่มแช่น้ำเอาไว้จนกว่ารากจะงอก

2.แบบมีวัสดุช่วย คือห่อกระดาษชำระ (ควรเลือกกระดาษชำระที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน) เพราะผู้เขียนทดลองแล้วหากกระดาษชำระมีสารเคมี (สารเพิ่มกลิ่นหอม/สารเพิ่มความขาว) เมล็ดจะไม่งอกและจะเน่าไปเลย โดยสามารถนำกระดาษชำระมาห่อเมล็ดเพียงครึ่งลูกแล้วจุ่มน้ำจนชุ่ม รอให้งอก

3.แบบมีวัสดุช่วยอื่นๆ เช่น ขุยมะพร้าวหรือดินใส่ลงไปแล้วก็จัดการกดเมล็ดอะโวคาโดให้จมลงครึ่งลูก รดน้ำให้ชุ่ม

ทั้ง 3 วิธีนี้เมื่อทำเสร็จแล้วให้จัดการปิดขวดจนกว่าจะมีรากและยอดแทงออกมาจากเมล็ดอะโวคาโด จึงค่อยๆ เปิดฝาและเติมน้ำอย่าให้ขาด ระยะเวลารากงอกนั้น รอไปอีกสัก 2-3 เดือนเลย จนกว่ารากจะงอกออกมายาวและแข็งแรงพอ และมีใบอ่อนสัก 5-6 ใบ จากนั้นจึงจะสามารถนำไปปลูกลงดินหรือลงในกระถางได้ (ดูวิธี การเพาะเมล็ดแบบไม่ใช้ดิน อื่น)

ขั้นตอนต่อไปเมื่อได้ต้นกล้าแล้ว ควรจำไว้ว่า ต้นโวคาโดชอบแดดจัด (แต่ไม่ชอบร้อน) จึงควรวางกระถางในที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มวันในที่ๆ อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อบอ้าว หากอากาศร้อนเกินควรพรางแสงด้วยการวางกระถางไม้อื่นเพื่อช่วยเป็นพี่เลี้ยง หรือปลูกลงดินในที่ๆ มีแสงไม่จัดมากก็ได้ ปลูกใต้ต้นมะละกอ หรือแซมในสวนผลไม้อื่น หรือหาวัสดุมาพรางแสงมาบัง รดน้ำ 2 วันครั้ง ไม่ชอบน้ำแต่ไม่ควรให้ขาดน้ำ รดน้ำไม่ให้แฉะและไม่ชื้นจนเกินไปรากจะเน่า ดินต้องระบายน้ำได้ดี (แนะนำดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวสับ) การแยกต้นกล้าลงดิน ไม่ควรให้น้ำท่วมราก รากจะเน่า ต้นอะโวคาโดหาน้ำเองเก่ง หากเพาะเมล็ดให้เกิดรากแก้วจะดูแลง่ายกว่า เมื่อต้นอ่อนในกระถางมีความสูงประมาณ 6-7 นิ้ว ให้ตัดยอดออก เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการแตกยอดใหม่ และเมื่อมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว ก็ให้เด็ดยอดอ่อนออกให้แตกยอดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ทรงพุ่มสวย รอบโคนต้นไม่ควรมีวัชพืช เพราะจะมาแย่งอาหารหมด ต้นโตช้า

สูตรเร่งอะโวคาโดโตไว

ให้ใช้ปุ๋ยสูตรที่มีตัวหน้าเยอะๆ ผู้เขียนแนะนำปุ๋ยอินทรีย์จากผักตบชวา โดยนำผักตบชวามากองๆ สุมๆ ไว้ให้ย่อยสลายเป็นบางส่วนแล้วนำมาเป็นวัสดุปลูก จะทำให้ต้นอะโวคาโดติดยอดและให้ผลผลิตดี สูตรนี้ใช้ได้กับไม้ผลทุกชนิด

เกษตรอินทรีย์กับผลอะโวคาโด

ผลดิบไม่สามารถรับประทานได้ เพราะมีสารแทนนินในปริมาณมากและมีรสขม หากรับประทานในปริมาณมากอาจจะทำให้ปวดศีรษะได้ แต่สามารถนำไปใช้เลี้ยงสัตว์น้ำที่ต้องการสารแทนนินได้ เช่น สัตว์เปลือกแข็งเช่น กุ้ง หอย ปู ที่ต้องการสารแทนนิน เพื่อให้ส่งผลในการยับยั้งการขับถ่ายเป็นการชั่วคราว ลดอัตราการเกิดโรคขี้ขาว (สารแทนนินมักจะมีอยู่ในผักผลไม้ที่มีรสฝาด ขม แต่สามารถขจัดแทนนินได้ด้วยการทำให้มันสุก)

เกษตรอินทรีย์ กับ การปลูกต้นอะโวคาโด

ข้อควรจำ อะโวคาโด เป็นไม้ผลที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ในการปลูกอะโวคาโดในเมืองไทยเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้น อาจเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีความเหมาะสมทั้งสภาพอากาศและแร่ธาตุที่จำเป็นในการปลูก อาจจะทำให้ลำต้นแกร็นและเล็กและใช้ระยะเวลานานกว่าจะให้ผลผลิต แต่หากลองปลูกไว้ดูเล่นข้างบ้าน ก็ให้ร่มเงาได้ดี

ขอขอบคุณ


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page